กล้วย (Banana) เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันในบ้านเรา หาทานได้ง่าย และมีราคาถูก นอกจากจะมีสีสันสวยงาม หอมหวานน่าทานแล้วยังมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ซึ่งให้พลังงานสูง และกล้วยก็ยังมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่ผู้คนนิยมทานกันมาก คือ กล้วยหอม เพราะนอกจากจะมีกลิ่นหอมแล้ว ยังมีประโยชน์ และอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติรวมกัน ถึง 3 ชนิด คือ ซูโครส กลูโคส และฟรุคโทส ที่จะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายของเรา

กล้วยไข่

กล้วยไข่จะสามารถลดริ้วรอยเหี่ยวย่น เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบดูแลตัวเอง เพราะจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ คือ เบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอความแก่ และความเสื่อมของเซลล์ และยังมีฤทธิ์ในการป้องกันมะเร็งได้ด้วย

ตารางทางโภชนาการของกล้วย ต่อ 100 กรัม (100G)

พลังงาน 89 กิโลแคลอรี                                วิตามินบี1 0.031 มิลลิกรัม 3%

คาร์โบไฮเดรต 22.84 กรัม                             วิตามินบี2 0.073 มิลลิกรัม 6%

น้ำตาล 12.23 กรัม                                       วิตามินบี3 0.665 มิลลิกรัม 4%

เส้นใย 2.6 กรัม                                            วิตามินบี5 0.334 มิลลิกรัม 7%

ไขมัน 0.33 กรัม                                           วิตามินบี6 0.4 มิลลิกรัม 31%

โปรตีน 1.09 กรัม                                          วิตามินบี9 20 ไมโครกรัม 5%

โคลีน 9.8 มิลลิกรัม 2%                                 วิตามินซี 8.7 มิลลิกรัม 10%

ธาตุเหล็ก 0.26 มิลลิกรัม 2%                           ธาตุฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม 3%

ธาตุแมกนีเซียม 27 มิลลิกรัม 8%                      ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%

ธาตุแมงกานีส 0.27 มิลลิกรัม 13%                   ธาตุสังกะสี 0.15 มิลลิกรัม 2%

โพแทสเซียม 358 มิลลิกรัม 8%                       ธาตุฟลูออไรด์ 2.2 ไมโครกรัม

(ดวงจันทร์ เฮงสวัสดิ์, 2557, 15-18)

ประโยชน์ของกล้วย!

  1. ช่วยลดกลิ่นปากได้ดีในระดับหนึ่ง
  2. ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ
  3. ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่สมองของเรา
  4. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยชะลอความแก่
  5. ข้อนี้คงถูกใจสาวๆ มาก คือ กล้วยช่วยลดความอ้วนด้วยนั่นเอง
  6. กล้วยยังช่วยลดอาการหงุดหงิดของสาวๆ ที่มีประจำเดือนด้วย
  7. รักษาอาการท้องผูก
  8. ช่วยรักษาความดันโลหิตสูง หรือเส้นเลือดฝอยแตกได้

แต่ทว่า กล้วยนั้นมีน้ำตาลสูง ทำให้คนที่กินเข้าไปแล้วกระเพาะจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จะไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน ดังนั้นคนที่เป็นกรดไหลย้อนไม่ควรทานตอนท้องว่าง ถึงแม้จะมีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ ทุกสายพันธุ์ล้วนมีประโยชน์ที่แตกต่างกันไป แล้วยังสามารถที่จะรักษาอาการต่างๆ ได้ ดังนั้นเราควรหันมารับประทานกล้วยที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเรากันดีกว่า

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก  www.lib.ru.ac.th

Tags: