ความเป็นมาของภูมิปัญญา
การทำผ้าหมักโคลน เป็นภูมิปัญญาจากท้องถิ่นดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์และสืบสานแต่โบราณของไทย การค้นพบกรรมวิธีของการทำผ้าขาวม้าหมักโคนนั้น เกิดจากเมื่อสมัยที่ลูกชายได้บวชเป็นพระ จึงมีโอกาสไปทำบุญที่วัด ได้เห็นพระทำการย้อมสีผ้าอาบน้ำฝนโดยนำดินแดงมาเป็นสีย้อมผ้า จึงเกิดข้อสงสัยและซักถาม พระท่านจึงตอบว่า “ผ้าอาบแดงกรรมฐาน สารพัดประโยชน์” ผ้าอาบน้ำฝนจะใช้หินแดงที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาฝนเป็นสีสำหรับย้อมผ้า จากนั้นจึงพบว่าโคนจากดินแดงมีผลดีทำให้เนื้อผ้ามีคุณสมบัติแตกต่างไปจากเดิม เช่นผ้าฝ้ายทอมือที่เคยแข็งกระด้าง เมื่อถูกนำถูกนำมาหมักน้ำโคนแล้วนำกลับมาซักจะทำให้เนื้อผ้ามีความนุ่มและลวดลายที่สวยงามเหมาะสมกับการนำไปใช้งาน จึงได้มีการนำไปแปรรูปผลิตภัณฑ์ เช่น เสื้อผ้า ของใช้และของที่ระลึกรูปแบบต่างๆ  เนื่องจากการทอผ้าต้องอาศัยความประณีตบรรจงสวยงามและถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของผู้ทอ เช่น เดียวกับชาวบ้าน บ้านอูบมุงเหนือที่สืบทอดงานหัตถกรรมการทอผ้ามาจากบรรพบุรุษทำให้เกิดคุณค่าทางจิตใจของผู้ที่ได้รับ เช่น ผ้าขาวม้าหมักโคลน ผ้ามัดหมี่หมักโคลนเป็นต้น การทำผ้าขาวม้าหมักโคลนกลุ่มจะเลือก เส้นใยฝ้าย ใยประดิษฐ์ อย่างดี เมื่อทอออกมาแล้วผ้าจะนุ่มใช้งานได้นานสีไม่ตก
การเรียนรู้ภูมิปัญญา
– เรียนรู้จากบรรพบุรุษ โดยเริ่มสังเกต และปฏิบัติจากการลองผิดถูก
การถ่ายทอดภูมิปัญญา
– ถ่ายทอดให้ลูกหลาน ชาวบ้าน นักเรียนนักศึกษา โดยการสาธิตและปฏิบัติจริง
ขั้นตอน/วิธีทำ
การทำผ้าหมักโคลน
        1. เริ่มจากการนำดินโคลนจากดินจอมปลวก 15 กิโลกรัม ผสมกับน้ำ 30 ลิตรแล้วมากรองด้วยผ้าชาวบางเพื่อคัดกรองนำเม็ดดินออกให้เหลือแต่เนื้อโคลนล้วนๆ เพื่อทำเป็นน้ำโคลนหมักผ้า
        2. นำผ้าผืนที่ทอไว้แล้วมาแช่น้ำโคลนทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำไปซักน้ำเปลา 1 น้ำ จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งแล้วนำไปต้มย้อมสีธรรมชาติตามที่ต้องการ
การย้อมสีผ้าหมักโคลน
        1. จุดไฟตั้งหม้อต้ม โดยใช้น้ำ 30 ลิตร ต่อหนึ่งหม้อ
        2. ใส่สีธรรมชาติที่เตรียมไว้ (2 กิโลกรัม ต่อหม้อ)
        3. ใส่เกลือ 7 ช้อนโต๊ะ ผงซักฟอก 3 ช้อนโต๊ะ
        4. ใช้ไม้คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วรอจนกว่าน้ำจะร้อน
        5. ใส่ผ้าที่ซักโคลนออกแล้วลงหม้อ และใช้ไม้คนผ้าตลอดเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้สีเข้ากันดี
        6. เมื่อคนจนสีเข้ากันแล้วนำผ้าออกไปซักแล้วตากให้แห้ง
วัสดุ/อุปกรณ์
1 โคลน 15 กิโลกรัม ต่อน้ำ 30 ลิตร

2 น้ำ 30 ลิตร (ต่อ 1 กะทะ)

3 เกลือ 7 ช้อนโต๊ะ

4 ผงซักฟอก 3 ช้อนโต๊ะ

5 ผ้าขาวบาง 1 ผืน

ประโชยน์ในการใช้งาน
– ใช้นุ่งห่มและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ประโยชน์ได้หลากหลายประเภท ได้แก่ เสื้อ กางเกง ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ หมวก กระเป๋า ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ผ้าปูโต๊ะ เป็นต้น

ขอบคุณเครดิตมาจาก :- http://is.udru.ac.th/localweb/group1/information03.html

Tags: